\\*// \\*// สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่บอล์ก สำหรับคนชอบ Ment Ment Ment ค่ะ เจ้าของบ้านชื่อมี่ค่ะ ผู้บ้างานศิลปะและกราฟิค เป็นชีวิตจิตใจ และ Comment ที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นน้ำพัก น้ำแรงของมี่เองค่ะ (บางภาพก็นำมาดัดแปลง บ้างคะ แอบโม้ อิ อิ ) ถ้าชอบใจ ไม่ชอบยังไง เขียน ติชม เป็นกำลังใจสร้างสรรค์ ผลงานต่อไป ปะ ไป Ment Ment Ment ส่งให้เพื่อน ๆ กัน ขอบคุณเข้าเยี่ยมชมบอล์กนะค่ะ………( ^ ____________^ )

ข้อคิดดี ดี จากปู่เย็น

อยซิ ... ไม่มีมือ ไม่มีตีน มันยังหากินได้เอง.. ประสาอะไรกับ คนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ ก็อายหอย..


ขายอย่าให้แพง คนเขาจะได้กินลง ฉันขายถูก ๆ เอาไปเถอะ ซื้อไปแกงให้พอหม้อ




ชีวิตคนเหมือนสะพาน มีขึ้น- มีลง มีสูง - มีต่ำ

นฟรีได้ แต่ไม่อยากกิน เกรงใจ ไม่เอา อาย ของเขาซื้อเขาขาย ไหนต้องตัก ไหนต้องล้าง..
ไม่กิน ไม่ขอใคร คนเรา หายาก ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้นะ
นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น เป็นชาวเพชรบุรี นับถือศาสนาอิสลาม บิดาชื่อนายสุข แก้วมะณี มารดาชื่อนางชม แก้วมะณี อาศัยอยู่ตามทะเบียนราษฎร์ เลขที่ 274/4 ถนนมาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เดิมประกอบอาชีพรับจ้างเลี้ยววัว มีภรรยาชื่อนางเอิบ แก้วมะณี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2536 จากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ในเรือมาตลอด เลี้ยงตนเองด้วยการหาปลาขายมีรายได้วันละ 30-70 บาท จะขึ้นฝั่งไปอยู่กับหลานที่ อ.ท่ายาง ช่วงน้ำหลากเชี่ยวเท่านั้น หากนับอายุตามหลักฐานทะเบียนราษฎร์มีอายุ 86 ปี
.......แต่ปู่เย็นเล่าให้ฟังว่าเกิดปีฉลู ขณะนี้อายุ 105 ปี ซึ่งจากการสอบถามผู้สูงอายุกว่า 80 ปีใน อ.เมือง ยืนยันว่าเมื่อยังเด็กเห็นปู่เย็นเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว
ปู่เย็น เป็นคนเกรงใจคนอื่นอย่างมาก ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใครง่ายๆ ไม่ยอมให้ใครทำอะไรให้ฟรีๆ โดยบอกว่า ตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิตก็อยู่บนฝั่งไม่ได้ ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือ และการหาปลาก็ทำให้ลืมความคิดถึงภรรยาไปได้บ้าง แต่ก็ยืนยันว่าชีวิตตนเองไม่ได้ลำบากอะไร
ทั้งนี้ นายเย็นจะปักและกู้อวนวันละ 2 รอบ คือช่วง 21.00 น. และ 04.00 น. จากนั้นในตอนเช้าจะนำปลาไปขายที่ตลาด รายการคนค้นฅน เป็นรายการแรกที่ทำให้ได้รู้จักกับชายชราผู้นี้ .....
นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น ชายชราผู้หลงยุค ผู้มีร่างกายแข็งแรงและเต็มเปี่ยมไปด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง ที่ไม่ยอมจำนนต่อวัยและสังขารอันร่วงโรย ในเรือลำเล็กๆ ลำหนึ่งขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 5 เมตร ที่เป็นทั้งเรือนงานแห่งชีวิตกับการยึดอาชีพวางอวนหาปลาในแม่น้ำเพชรบุรี อีกรวมถึงยังเป็นเรือนนอนที่กินอยู่และอาศัยพักพิงเพียงอยู่ตัวคนเดียวมาหลายสิบปี หลังจากที่ภรรยาและญาติสนิทมิตรสหายค่อยๆ ล้มหายตายจากไปตามอายุขัยของคนปกติที่มีอายุอาจไม่เกิน 80 ปี
ทุกเช้าที่บริเวณตลาดสดแถวสะพานลำใย ชายชราหลังงองุ้มคนหนึ่งจะปรากฏตัวขึ้นมาจากบันไดเชิงสะพาน พร้อมกับกะละมังหนึ่งใบใส่ปลาน้ำจืดประมาณ 10-20 ตัว มานั่งขายให้กับผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด .. ไม่มีตราชั่ง .. ไม่มีถุงใส่ .. ไม่มีป้ายตั้งราคา .. ใครอยากซื้อเท่าไหร่ก็จ่ายมาเท่านั้น และ เมื่อปลาหมด การนั่งกินน้ำเต้าหู้ที่ร้านใกล้สะพานก็จะเป็นมื้อเช้าของปู่ทุกวันก่อนกลับลงเรือที่จอดอยู่ใต้สะพาน
........เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหลังฤดูฝนไปจนถึงเดือนมิถุนายนก่อนการกลับมาของฤดูฝนอีกครั้ง และเมื่อถึงฤดูฝนปู่เย็นจะกลับขึ้นฝั่ง ไปพักอาศัยอยู่กับหลานพร้อมกับการยกเรือขึ้นไปอยู่บนฝั่งที่ อ.ท่ายาง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำหลากเกินไปที่จะหาปลาและอยู่อาศัยได้ และ เมื่อหมดฝนการเฝ้ารอคอยของปู่เย็นที่จะได้กลับลงแม่น้ำอีกครั้งก็จะเกิดขึ้น เรือลำหนึ่งจะล่องจากท่ายางมาที่เมืองเพชรเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร เพื่อกลับสู่วิถีชีวิตเดิมๆ ภาพของวัฎจักรแห่งชีวิตและการงานของปู่เย็นก็จะดำเนินไปอีกครั้ง กับชีวิตและความผูกพันกับแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำสายแห่งชีวิตที่ปู่เย็นทำมาหากินหล่อเลี้ยงตัวเองมาจนวัยลุล่วงมาจนถึงในวันนี้

ที่มา : รายการคนค้นฅน
ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ18 กันยายน 2552 เวลา 16:52

    เห็นแล้ว มีกำลังใจสู่ชีวิต อีกเยอะ

    ขอบคุณนะ

    ตอบลบ